ประกันชีวิตมีกี่แบบ? อะไรบ้าง?
1. แบบตลอดชีพ (Whole Life) หากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต บริษัทประกันชีวิต จะจ่ายจำนวนเงินเอาประกันภัยให้แก่ผู้รับประโยชน์ วัตถุประสงค์เพื่อจัดหาเงินทุนสำหรับจุนเจือบุคคลที่อยู่ในความอุปการะ เมื่อผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต หรือ เพื่อมอบเช็คเงินสดเป็นมรดก เพื่อให้บุคคลในครอบครัวปรับตัวได้ ถ้าเรามีคนที่ต้องดูแล ควรทำ “กรมธรรม์แห่งความรัก” นี้มากที่สุด เพื่อมอบเพื่อเงินก้อนสุดท้ายของชีวิตให้กับครอบครัว
2. แบบสะสมทรัพย์ (Endowment) บริษัทจะจ่ายจำนวนเงินเอาประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัย เมื่อมีชีวิตอยู่ครบกำหนดสัญญา หรือจ่ายเงินเอาประกันภัยให้แก่ผู้รับประโยชน์ เมื่อผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตลงภายในระยะเวลาที่กรมธรรม์มีผลบังคับ ข้อดีของประกันสะสมทรัพย์นั้นคือความแน่นอนของสัญญาที่ระบุในกรมธรรม์ว่าผู้เอาประกันภัยจะได้รับเงินตามจำนวนที่ตกลงไว้ในสัญญาแน่นอนจะไม่ผันผวนเท่ากับการลงทุนในกองทุนหุ้น และยังได้รับความคุ้มครองชีวิต และลดหย่อนภาษีได้ตามที่กรมสรรพากรกำหนดไว้
3. แบบชั่วระยะเวลา (Term) บริษัทประกันชีวิตจะจ่ายเงินให้แก่ผู้รับประโยชน์เมื่อผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตในระยะเวลาประกันภัย วัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร การประกันชีวิตแบบนี้ไม่มีส่วนของการออมทรัพย์เบี้ยประกันภัยจึงต่ำกว่าแบบอื่นๆและไม่มีเงินเหลือคืนให้หากผู้เอาประกันภัยอยู่จนครบกำหนดสัญญา เป็นการทำประกันที่ใช้เบี้ยประกันถูกมากที่สุด ยกตัวอย่าง ผู้หญิง อายุ 39 ปี เลือกความคุ้มครอง 1,000,000 บาท จ่ายเบี้ยแค่ปีละ 4,120 บาท หรือเพียงวันละ 12บาท เท่านั้นเอง
4. แบบเงินได้ประจำ (Annuity) หรือที่รู้จัก คือ ประกันบำนาญ เป็นการประกันชีวิตที่บริษัทประกันชีวิตจะจ่ายเงินจำนวนหนึ่งเท่ากันอย่างสม่ำเสมอให้แก่ผู้เอาประกันภัยทุกปีนับแต่ผู้เอาประกันภัยเกษียณอายุหรือมีอายุครบ 55 ปีหรือ 60 ปีเป็นต้นไปแล้วแต่เงื่อนไขในกรมธรรม์ที่กำหนดไว้สำหรับระยะเวลาการจ่ายเงินได้ประจำนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เอาประกันชีวิตที่จะเลือกซื้อ หากต้องการเกษียณอายุตอน 60 ปีและต้องการรายได้ประจำปีละ 120,000 บาทไปจนถึงอายุ 85 ปี ก็สามารถเลือกทำแบบประกันนี้ได้
0 ความคิดเห็น